Bird Eye view นก นภัสสร โชติกวณิชย์

หมอดูเป็น First Step ที่คนหันหน้าไปปรึกษาปัญหาชีวิตที่ง่ายที่สุด : การดูดวงสัมพันธ์กับสุขภาพจิตยังไง? หาคำตอบไปกับ นก-นภัสสร โชติกวณิชย์ เจ้าของช่องดูดวง Bird Eye view 

6 เดือนหน้าชีวิตจะเป็นยังไง 

ซื้อรถสีแดงจะส่งเสริมชีวิตไหม 

แฟนเก่าที่เลิกกันไปหมดรักหรือยัง

ปี 2565 Lucky Heng Heng บริษัทผู้ให้บริการด้าน MuTech แบบครบวงจร เผยผลสำรวจว่าคนไทยกว่า 52.5 ล้านคน หรือ 75% จากทั้งหมดเชื่อในเรื่อง ‘ดูดวง’ และ ‘หมอดู’ กลายเป็นบุคคลสำคัญที่ส่งผลต่อภาพรวมในชีวิตประจำวันมากขึ้นเรื่อยๆ 

ไม่ใช่แค่กับคนไทย เพราะการมูเตลูถูกอธิบายเป็นศัพท์เทคนิคทางจิตวิทยาว่า External Lous of Control แปลง่ายๆ ว่า มีการเชื่อว่าโชคชะตาฟ้าลิขิตชีวิต 

การดูดวงมีหลายหน้าที่ แต่หน้าที่หลักๆ คือการแนะนำหนทางขจัดความทุกข์ในทางใดทางหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นปัญหาชีวิตส่วนตัว ครอบครัว หน้าที่ การงาน ความรัก 

งานวิจัยเรื่อง ‘การพยากรณ์โชคชะตาและกระบวนการช่วยเหลือด้านจิตใจ’ ของ เรวดี สกุลอาริยะ คณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สรุปว่า เมื่อเกิดปัญหา ผู้คนเลือกพึ่งพาการดูดวงมากกว่าเข้ารับบริการช่วยเหลือจากนักจิตวิทยาและจิตแพทย์ เพราะสังคมยังตีตราผู้เข้ารับบริการด้านสุขภาพจิต แต่ไม่ตีตราคนที่ไปดูดวง

ดังนั้นแล้วจึงมีคนกล่าวไว้ว่า “ดูดวงก็เปรียบเหมือนพบจิตแพทย์” คำพูดนี้จริงหรือไม่ แล้วในมุมของหมอดูเองคิดอย่างไร เราจึงติดต่อ นก-นภัสสร โชติกวณิชย์ อินฟลูเอนเซอร์ (Influencer) ด้านการดูดวง 

เจ้าของ Bird Eye view ช่องยูทูป (Youtube) ที่ใช้ศาสตร์เปิดไพ่ให้ดูดวงฟรี และเป็นช่องขวัญใจใครหลายคนจนได้รับความนิยมที่มียอดติดตามเกือบ 5 แสนคนมาคุยเรื่องพวกนี้กัน 

จุดเริ่มต้นของการเป็นอินฟลูด้านดูดวง 

จุดเริ่มต้นที่ไปเรียนดูดวงคือมีปัญหาชีวิตเรื่องความรัก ประจวบกับที่ชอบดูดวงมากๆ ก็เลยตัดสินใจไปเรียนดูดวงให้เป็นกิจจะลักษณะเลย เพราะรู้สึกว่าอยากจะมาดูดวงให้ตัวเอง พอเรียนไปสักพัก เริ่มดูได้ก็รู้สึกว่าเหมือนเราไม่ได้อยากดูดวงอย่างเดียวแล้ว แต่อยากเป็นหมอดูด้วยเลยผันตัวมาเป็นหมอดู แล้วก็ศึกษาอย่างจริงจังจนทำมาได้ประมาณ 7-8 ปีแล้ว 

นับไปเมื่อ 8 ปีที่แล้ว จริงๆ ตอนเรียนดูดวงเราเรียนเป็นคอร์สสั้นๆ รวมแล้วใช้เวลาประมาณ 1 ปี แต่หลังจากนั้นก็เรียนต่อยอดด้วยตัวเอง แรกๆ เราใช้เพื่อนเป็น Case Study คือใช้เพื่อนตัวเองให้มาเปิดไพ่กับเราแล้วลองฝึกอ่านไพ่ฝึกดูดวง จนแน่ใจว่าชำนาญแล้ว ก็เริ่มเปิดยูทูปชื่อช่อง  Bird Eye view 

คิดว่าที่คนชอบมาดูกับเรา เพราะคลิปเก่าๆ ที่ผ่านมาเน้นเปิดไพ่เรื่องความรัก แล้วภาษาที่เราใช้มันไม่ได้ยาก เข้าถึงง่าย

นก-นภัสสร โชติกวณิชย์ เจ้าของช่องดูดวง Bird Eye view

หมอดูทำหน้าที่อะไร 

ที่ผ่านมาไม่ค่อยมีคนมาดูดวงทำนองว่าให้เราไปช่วยเขาวางแผนชีวิต แต่ส่วนใหญ่คนที่มาดูเขาก็อยากรู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไงต่อไป

นกบอกลูกดวงเสมอว่าตัวเราไม่ใช่คนที่จะไปกำหนดชีวิตใครได้ เราเป็นแค่คนบอกสิ่งที่เราเห็นหน้าไพ่เพราะฉะนั้นสุดท้ายคนที่จะต้องตัดสินชีวิต หรือเลือกทางเลือกในชีวิตก็จะต้องเป็นตัวคนๆ นั้นเอง

อย่างเช่นตอนเราดูดวงแล้วบอกว่าเรื่องนี้ต้องระวังนะ ถ้าคนที่มาดูยังอยากเดินไปเส้นทางนี้เขาก็ต้องระวังให้มากขึ้น 

สำหรับตัวนกไม่ใช่หมอดูที่ไปตัดสินใจแทนคนอื่น ต้องบอกก่อนว่านกรู้สึกว่าตัวเองเป็นแค่คนที่บอกสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตแต่สุดท้ายแล้วคนที่เลือกทางเดินนั้นๆ ก็จะเป็นคนๆ นั้นเอง

คำถามหลักๆ ที่คนมาดูดวงชอบถามคืออะไร 

ที่โดนถามคือบ่อยๆ หรือเป็นมาตรฐานเลยคือ เขารู้สึกยังไงกับเรา เขาคิดยังไงกับเรา มีแนวโน้มได้พัฒนาไหมอย่างนี้มันเป็นคำถามแบบปกติเลย

คุณสมบัติที่นักดูดวงต้องมีคืออะไร 

เราว่าเอาจริงๆ คุณสมบัติของคนที่เป็นหมอดูที่ดีก็คือ หนึ่ง วิธีการสื่อสารต้องโอเค เพราะอย่าลืมว่ามันไม่ใช่ทุกคนจริงๆ ที่จะยอมรับกับคำตอบ หรือสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ ถึงเขาจะเตรียมพร้อมมาแล้วว่าเขาจะดูดวง แต่สุดท้ายทุกคนมีสิ่งที่ตัวเองอยากได้ยินเพราะฉะนั้นวิธีการสื่อสารของเราต้องดี ต้องรอบคอบมากพอ ทั้งเซฟตัวเราแล้วก็เซฟความรู้สึกลูกดวงด้วย 

แล้วนกคิดว่าเราไม่ควรจะอินกับเรื่องของคนอื่นมากจนเกินไปอันนี้เป็นสิ่งที่สำคัญมาก อาชีพนี้ทำให้นกคิดอะไรที่มีตรรกะมากยิ่งขึ้นแบบคิดเท่าที่เห็น คิดอะไรเป็นเหตุเป็นผล ไม่ใช้อารมณ์ลงกับเรื่องของเขามากจนเกินไป ถ้าเรารู้สึกอินกับเรื่องของเขามันจะทำให้เราไปบังคับเขาในหลายๆ เรื่องว่าเขาควรจะทำอย่างนั้น เขาควรเป็นแบบนี้สิ ซึ่งนกคิดว่ามันไม่ควรที่จะเกิดขึ้น สุดท้ายแล้วไม่มีใครเป็นเจ้าชีวิตใครอยู่ดีเขาเลือกแบบไหนมันคือทางเลือกในชีวิตเขา

ทำไมคนถึงชอบดูดวง 

นกว่าทุกคนอยากได้ยินสิ่งที่ตัวเองอยากจะได้ยิน เพราะฉะนั้นนกก็เลยคิดว่าทุกคนอยากมีความหวังแต่ว่าส่วนหนึ่งนกรู้สึกว่ามันอาจจะสอดคล้องกันตรงที่ว่าการดูดวงมันเป็นการมองสิ่งที่เกิดขึ้นในอนาคตหรือการบอกสิ่งที่เกิดขึ้นในอนาคตมันทำให้เขามีความหวังมากขึ้น ใช้คำนี้แล้วกัน

พอเขามีความหวังในการใช้ชีวิตมากขึ้น มีความหวังในการตัดสินใจทำอะไรต่างๆ เขาก็เลยพึ่งการดูดวง แล้วอีกอย่างมันไม่ได้ราคาสูง แม้ว่าจริงๆ ก็มีราคาสูงอยู่บ้าง (หัวเราะ) 

นกรู้สึกว่าสาเหตุคนที่เขาเลือกหมอดูมากกว่าการไปปรึกษานักจิตหรืออะไรก็ตามอาจจะเป็นเพราะว่าเขาคิดว่านักจิตก็คงคล้ายๆ หมอดูอยู่ดี แต่ว่าหมอดูก็ไม่ใช่หมอจริงๆ อยู่ดีไง หมอดูก็เป็นเหมือนคนๆ หนึ่งเหมือนเพื่อนมนุษย์คนหนึ่งแล้วบางทีเวลาคุยกับหมอดูมันก็จะมีแบบเม้าท์มอยเหมือนเพื่อน 

หมอดูก็เหมือนเพื่อน โดยเฉพาะเป็นเพื่อนที่ทำให้เขารู้สึกว้าว เช่น บอกว่าคนนี้เคยพูดแบบนี้ล่ะสิหรือคนนี้เคยทำแบบนั้นล่ะสิ ซึ่งมันเป็นสกิลอย่างหนึ่งของการเป็นหมอดูนะ แต่ในมุมคนดูพอมันว้าวแล้วก็ติดใจ จุดนี้ด้วยเลยทำให้คนติดดูดวง อยากดูดวง

ฐานะส่งผลต่อการนิยมดูดวงไหม  

ที่บอกว่าคนจนมาดูดวง แต่คนรวยไปพบนักจิต จากประสบการณ์ที่ผ่านมานกไม่เห็นด้วยนะ เพราะ

เราเคยเห็นคนที่มีฐานะมากๆ มาดูดวงกับเรา เป็นนักธุรกิจจ๋าเลยแต่วันหนึ่งเขามีคำถามบางอย่างที่ไม่สามารถหาคำตอบได้ว่ามันคืออะไร หรือปัญหานี้มันเกิดขึ้นได้ยังไง หรือมันจะดีขึ้นเมื่อไหร่แล้วกลายเป็นว่าพอเขาเข้ามาหาหมอดูแล้วเรามีคำตอบให้เขาว่าเขาอาจจะดีขึ้นเมื่อไหร่ กลายเป็นว่าเขาเข้ามาดูดวงประจำ

คนที่เข้ามาดูดวงอาจจะไม่เกี่ยวกับฐานะ แต่อยากลอง หรือต้องการอะไรบางอย่างที่เขาหาไม่ได้ มาหาหมอดูเพราะอยากรู้สิ่งที่เกิดขึ้น แต่ถ้าเมื่อไรที่สภาพจิตใจเราไม่โอเค แล้วหมอดูก็ให้คำตอบไม่ได้ก็ต้องไปพบแพทย์อยู่ดี เพราะว่าสุดท้ายหมอดูแค่บอกว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ว่าคนที่รักษาได้ไม่ใช่หมอดูแต่เป็นหมอจริงๆ 

หมอดูเหมือนจิตแพทย์หรือนักจิต คิดเห็นกับประโยคนี้อย่างไร 

ในมุมของนก การมาดูดวงมันก็คล้ายหนทางอะไรสักอย่างหนึ่ง เพื่อเป็นเส้นทางต่อไปในชีวิต แต่มันก็ไม่ได้เวิร์คในทุกๆ ครั้งนะ เช่น สมมุติว่าเป็นซึมเศร้าแล้วมาหาหมอดู หมอดูก็ไม่ได้ทำให้เราหายนะแต่ว่ามันอาจจะเป็นวิธีแก้ปัญหาที่เหมาะกับ First Step อย่างเช่นเพิ่งเลิกกับแฟนนะ แฟนจะกลับมาไหม มีแนวโน้มไหม เหมาะกับคนที่ยังมีสติมากพอที่จะตัดสินใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ถ้าไม่มีสติมากพอในการตัดสินใจก็อย่าเพิ่งมาดูดวงเลยดีกว่า 

การดูดวง มันไม่สามารถบอกได้ว่าในอนาคตจะเกิดขึ้นจริงตามที่บอก แต่อย่าลืมว่าทุกอย่างมันมีเหตุผลในตัวของมัน

สกิลการทำนายต้องมีอะไรบ้าง 

สกิลอย่างหนึ่งที่นกมีติดตัวคือการสื่อสาร เพราะว่าเคยเรียนจิตวิทยาพื้นฐาน จิตวิทยาในการสื่อสารหรือการโน้มน้าวใจคนมา ตอนเรียนมหาวิทยาลัยนกเรียนเกี่ยวกับ HR เลยต้องรู้ว่าควรพูดให้ออกจากงานยังไงให้เขาไม่มาด่าบริษัทเรา แล้วเรื่องพวกนี้เมื่อเอามาใช้กับการดูดวงมันทำให้เราเลือกใช้คำหรือเลือกที่จะพูดได้เหมาะสม 

แต่ต้องบอกก่อนว่านกไม่ได้ทำได้ดีในทุกครั้ง เพราะว่าบางเรื่องหรือกับบางคนหรือกับบางสถานการณ์สุดท้ายแล้วเราก็ต้องบอกตามสิ่งที่ศาสตร์การดูดวงบอกเรา เช่น มีคนถามว่าเขาไปตรวจมะเร็งมาแต่ว่าผลมะเร็งยังไม่ออกเขามีเกณฑ์เป็นไหม ซึ่งตามหน้าไพ่ก็บอกว่ามีเกณฑ์ เราไม่สามารถตอบได้ว่าไม่เป็น เพราะถ้าเราตอบว่าไม่เป็นแต่เราเห็นว่าเขาจะเป็นเราก็โกหกเขา เราก็ต้องบอกแต่อาจจะเลี่ยงคำพูดไป เช่น บอกว่ามีเกณฑ์นะ แต่ก็ดูตามผลตรวจอยู่ดี ตอนนี้ทำใจให้สงบ 

คนที่มาดูดวงกับหมอดูก็ต้องให้ความร่วมมือกันด้วย อย่างแรกคือเรามาดูดวง หมอดูไม่ใช่หมอเพราะฉะนั้นเราต้องมีสติมากพอในการรับรู้ว่าโอเคถ้าอนาคตมันจะเป็นอย่างนี้เราต้องรับคำตอบให้ได้ แล้วจริงๆ นกก็ไม่ได้เชื่อหมอดูไปทุกครั้ง เช่น เราอยากเป็นนักร้อง แต่หมอดูบอกว่าไม่เหมาะ แต่ถ้าเราฝึกให้มันเยอะขึ้นหรือว่าใช้วิธีการต่างๆ ให้มันไปถึงฝันมากขึ้นเราก็อาจจะเป็นนักร้องก็ได้

ทุกคนรู้ว่าการดูดวงไม่เหมือนการไปหาหมอแน่นอน คุณนกคิดว่าทำไมคนไทยถึงชอบดูดวง 

หมอดูเป็น First Step ที่คนหันหน้าไปปรึกษาซึ่งเป็นช่องทางที่ง่ายที่สุด เอาจริงๆ คนป่วยสุขภาพจิตเยอะนะ แต่ว่ามันไม่เพียงพอ หมอไม่พอ หรือบางคนไม่รู้ว่าไปหาหมอรักษาสุขภาพจิตที่ตรงไหน แต่ย้ำนะว่าการหาหมอดูไม่ใช่ทางออกที่ดีนะ 

คนเราไปดูดวงต้อง Base on สติ เขาถึงใช้คำว่าโปรดใช้วิจารณญาณ บางคนมาดูหมอ แต่สุดท้ายตัดสินใจไม่เอาคำตอบ

ในฐานะหมอดู แนวทางให้คำปรึกษาของ Bird Eye view เป็นแบบไหน 

คำแนะนำต่างๆ ก็มีบ้าง แต่ถ้าสมมุติว่าเขาเป็นมะเร็งเราคงไม่บอกให้เขาไปหาพระ หรือบางเคสเขามาปรึกษาเกี่ยวกับสุขภาพ นกก็แนะนำเลยว่าให้ไปตรวจสุขภาพเลยนะ หรือมีปัญหาเรื่องงาน เราก็บอกวิธีแก้ปัญหาทั้งทางโลก และทางธรรม คือโอเคที่ทำงานเดี๋ยวอาจจะมีปัญหากับคนนี้นะวิธีการคือต้องระวังเรื่องการสื่อสาร แล้วก็เสริมไปเช่นถ้าไปไหว้พระที่นี่จะเวิร์ค ไหว้ขอให้การงานราบรื่น อะไรอย่างนี้ 

คือส่วนหนึ่งมันเป็นเรื่องของสิริมงคล เราว่าเวลาคนไปไหว้พระ จิตใจจะดูสงบขึ้น พอสงบขึ้นก็ทำให้มีสติ พอมีสติแล้วมันทำให้เราตัดสินใจอะไรต่างๆ ได้แบบมีเหตุมีผลมากขึ้น 

เคยมีลูกดวงมาขอดูดวงแบบฟูมฟายมาเลย ซึ่งแบบนั้นเราจะไม่ดูให้ เพราะเขาไม่ได้อยู่ในจุดที่มีสติ  การดูดวงมันต้องมีสติ นกจะใช้วิธีการคุยกับเขาก่อนว่ามีความพร้อมมากน้อยแค่ไหน ถ้าเขายังไม่พร้อม ยังไม่โอเค เราจะตอบเลยว่า “พี่ก็ไม่โอเคเหมือนกันที่จะตอบคำถามในคำถามที่น้องไม่โอเค” 

ไม่ใช่แค่คนมาดู แต่คนดูก็ต้องมีสติด้วย เพราะคนมาดูเขาคาดหวังกับสิ่งที่กำลังจะเจอ ตอนเป็นหมอดูใหม่ๆ นกทำงานแบบใช้อารมณ์ร่วมสูงมาก แต่พอทำมาแล้วหลายปีก็พยายามลดความ Toxic ให้น้อยที่สุด ใช้ชีวิตแบบมีตรรกะมากขึ้น สมมุติเราอกหักนกจะเศร้า 2 วันก็ดีขึ้นแล้ว เรามีหน้าที่ในการรับฟังความทุกข์ของคน ถ้าเราจมกับสิ่งนั้นนานๆ แล้วเราจะไปเคลียร์ความรู้สึกคนอื่นได้ไง จะไปช่วยคนอื่นได้ยังไง


นกเปิดโอกาสให้ทุกคนดูดวงจากการเปิดไพ่ได้ฟรีผ่านทางช่อง Bird Eye view แต่ก็มีทางเลือกถ้าใครอยากดูดวงแบบส่วนตัวโดยเก็บเงินตามที่กำหนด 

แม้ว่าการดูดวงกับการพบจิตแพทย์จะไม่สามารถแทนกันได้ แต่ทั้งหมดล้วนมีหน้าที่ที่คล้ายๆ กันคือ การรับฟัง และเป็นพื้นที่ระบายในชั่วขณะหนึ่ง ถ้าหากทุกข์ใจ มีหลายวิธีที่ไม่ต้องเก็บความรู้สึกนั้นไว้คนเดียว การไปดูดวงกับหมอดู หรือหาคนรับฟังต่างๆ ก็เป็นวิธีที่เหมาะกับแต่ละสถานการณ์ รวมถึงถามตัวเองให้รอบคอบว่าต้องการความช่วยเหลือเบื้องต้นแบบใด

  • สายด่วนสุขภาพจิต โทร. 1323 หรือ https://1323alltime.camri.go.th 
  • สายด่วนคลายทุกข์ Samaritans.Thailand : ของสมาคมสะมาริตันส์แห่งประเทศไทย โทร. 02-113-6789 เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 12.00-22.00 น.
  • สายด่วน Depresswecare ของหน่วยงานจิตเวช โรงพยาบาลตํารวจ โทร. 081-932-0000
  • แอพลิเคชัน SATI พูดคุยกับอาสาสมัครรับฟัง