บางครั้งต้องยอมหลงทาง เพื่อค้นพบและเข้าใจตัวตน หนทางในการค้นหาความสงบสุขของชีวิตจาก Gift from the sea

“ฉันค้นพบว่าสิ่งที่ทำให้การใช้ชีวิตนั้นยาก ก็คือการเป็นคนไม่จริงใจ”

หนึ่งในประโยคเด็ดจากหนังสือ Gift from the sea ผ่านปลายปากกาของแอนน์ มอร์โรว์ ลินด์เบิร์ก (Anne Morrow Lindbergh) 

ชื่อของแอนน์อาจจะไม่คุ้นหูสำหรับคนทั่วไป แต่ที่อเมริกาหรือในวงการการบิน ชื่อของเธออยู่ลำดับต้นๆ ของบุคคลสำคัญ เพราะแอนน์เป็นนักบินหญิงคนแรกของอเมริกาที่ได้รับใบอนุญาตขับเครื่องร่อนและเครื่องบิน มากกว่านั้นแอนน์เป็นนักบินหญิงคนแรกที่ขับเครื่องบินใบพัดข้ามทวีปอเมริกา

ถึงแม้แอนน์จะมีชื่อเสียงและความเก่งกาจเพียงไร เธอก็ยังเป็นปถุชนทั่วไปที่ประสบปัญหาเช่นเดียวกันกับเราๆ ก็คือการหาความสงบสุขให้ชีวิต เป้าหมายสูงสุดในชีวิตของใครหลายคนที่อยากใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ปราศจากเรื่องราวให้ขุ่นเคืองใจ

หนังสือ Gift from the sea จึงเป็นตัวบอกเล่าว่า แอนน์หาความสงบสุขให้ชีวิตตัวเองอย่างไร  ผ่านช่วงเวลาสั้นๆ ที่เธอขอหนีจากทุกอย่างแล้วไปใช้ชีวิตที่เกาะแห่งหนึ่ง ความเงียบสงบที่ไร้สิ่งใดๆ กวนใจบนเกาะ ทำให้แอนน์ได้ตกตะกอนความคิด แล้วถ่ายทอดมันออกมาเพื่อให้เป็นตัวช่วยกับคนอื่นๆ

หอยเทพรส : กลับคืนสู่ความเรียบง่าย

แอนน์บรรยายว่าบนเกาะที่เธออาศัยอยู่ มีสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าคนนับนิ้วได้ นอกนั้นเป็นเหล่าสิงสาราสัตว์ประจำชายหาดและท้องทะเล สิ่งมีชีวิตที่แอนน์พบเจอบ่อยที่สุดจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ณ เวลานั้น ก็คือ ‘หอย’ แอนน์ก็เลยหยิบเจ้าหอยต่างๆ ที่เจอมาเปรียบเทียบกับช่วงชีวิตของเธอ ถือเป็นจุดเด่นหนึ่งของหนังสือเล่มนี้

‘หอยเทพรส’ หรือที่เราคุ้นเคยในชื่อหอยหวาน ที่นอกจากจะจิ้มน้ำจิ้มซีฟู้ดอร่อย มันยังเป็นบ้านของปูเสฉวน ทำให้แอนน์เปรียบเทียบหอยเทพรสกับชีวิตของเธอในฐานะผู้หญิงที่ถูกคาดหวังจากสังคมว่า ต้องทำหน้าที่ดูแลทุกๆ คน ไม่ว่าจะพ่อแม่ คู่ชีวิต ลูกๆ หมายรวมไปถึงการทำหน้าที่ในฐานะพลเมืองคนหนึ่งของประเทศหรือโลกใบนี้ 

สำหรับแอนน์นี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เราไม่สามารถหาความสงบสุขให้ชีวิต หรือแม้แต่มีเวลาจะตามหามัน เพราะเราต่างถูกกิจวัตรในชีวิตดึงกระชากเวลาจากเราไปจนหมด

“ความง่ายเรียบๆ ของหอยเทพรสบอกฉันว่า คำตอบขั้นแรกของการมีชีวิตเรียบง่าย คือ ตัดเรื่องที่ทำให้ไขว้เขวออกไปเสีย แต่จะทำอย่างไรเล่า จะให้ลาจากไปแสวงหาความสงบสงัดเลยนั้นทำไม่ได้”

แอนน์ยอมรับอย่างตรงไปตรงมากับผู้อ่านว่า ชีวิตเธอมีสิทธิ์พิเศษ (หรือภาษาที่ยุคนี้ฮิตใช้กันก็คือพริวิเลจ) ทำให้สามารถหลบหนีจากชีวิตประจำวันสั้นๆ มีเงินทุนที่พอหล่อเลี้ยงให้เธอใช้ชีวิตโดยไม่ต้องทำงานอะไรช่วงหนึ่งได้ 

แต่ถึงอย่างไรก็แอนน์ก็สนับสนุนให้คนอ่านลองหาทางดู แม้ว่าจะยากหรือเป็นไปไม่ได้ แต่ถ้าลองตั้งสิ่งนี้เป็นเป้าหมายชีวิต เราอาจจะหาทางเจอมัน เป็นประตูบานแรกเพื่อก้าวสู่ความสงบสุข

“ทางออกสำหรับฉัน คือ จะไม่ละทิ้งโลกหรือยอมรับตามโลกโดยสิ้นเชิง ฉันต้องหาจุดสมดุลให้พบ”

หอยตะกาย : หลบหนีจากทุกอย่างเพื่อใช้ชีวิตคนเดียว

“ตามธรรมชาติแล้ว คนเราไม่ชอบคิดว่าตัวเองอยู่ลำพัง ทุกคนพยายามหลีกเลี่ยง เพราะการถูกทอดทิ้ง หรือไม่เป็นที่รักใคร่ มีความหมายให้นึกถึงคนที่ไม่มีใครสนใจ ซึ่งเป็นสิ่งที่คนกลัว”

แม้ว่าคำแนะนำอย่างแรกของแอนน์ในการตามหาความสุขสงบให้ชีวิต คือ ให้หาเวลาอยู่คนเดียว แต่มันก็กลายเป็นเรื่องยากที่จะทำ ไม่ว่าจะเพราะภารกิจในชีวิตอย่างการเลี้ยงปากท้อง ทำให้เราต้องโฟกัสกับการหาเงิน รวมถึงสิ่งที่เราได้รับการถ่ายทอดต่อๆ กันมาว่า การอยู่คนเดียวไร้คนเคียงข้างถือเป็นเรื่องน่าอับอาย กลายเป็นคนน่าสงสารไป หลายคนที่ไม่อยากเป็นอย่างนั้น ก็พยายามทำให้รอบๆ ตัวมีคนอยู่เสมอ หรือให้มั่นใจว่าพวกเขายังถูกมองเห็น

“การอยากอยู่ลำพังกลายเป็นเรื่องน่าระแวง เป็นเรื่องต้องขอโทษ ต้องหาข้อแก้ตัว”

ภาพแอนน์ มอร์โรว์ ลินด์เบิร์ก ถ่ายโดย Richard W. Brown

ซึ่งข้อดีของการอยู่คนเดียวที่แอนน์สัมผัสได้ มันทำให้เราได้นิ่งและปล่อยวางจากเรื่องต่างๆ ทำให้มีเวลาได้คิด และทบทวนบางอย่าง ซึ่งสำคัญต่อการหาความสุขสงบของเรา บางทีหากเราลดความวุ่นวายที่มีในชีวิต ก็อาจทำให้เราเข้าใกล้ความสงบสุข โดยไม่ต้องไปตามหาจากไหนเลย

หอยแสงอรุณ : บางทีอาจต้องหลงทาง เพื่อให้เจอตัวตนที่ซ่อนอยู่ 

‘ตัวตน’ ก็เป็นสิ่งที่เราตามหาพอๆ กับความสงบสุขในชีวิต แน่นอนว่ามันก็ยากที่จะตามหาเช่นกัน ทำให้บางคนอาจใช้ตัวช่วย คือ มองเห็นตัวเองผ่านคนอื่นๆ ไม่ว่าจะพ่อแม่ เพื่อน หรือคนรัก ด้วยหวังว่าพวกเขาจะช่วยสะท้อนว่าตัวเองเป็นอย่างไร แต่แอนน์ก็ตั้งคำถามกับสิ่งนี้ว่า เราสามารถมองเห็นตัวตนของตัวเองได้จากคนอื่นเหรอ?

“เราจะรู้จักตัวเองในคนอื่นได้จริงเหรอ ในความรักของใครสักคนจริงหรือ หรือแม้ในกระจกที่คนอื่นถือให้”

บางครั้งความผิดพลาดที่เกิดขึ้นกับชีวิตเรา หรือที่คนส่วนใหญ่ชอบบอกว่าเรากำลังหลงทาง มันอาจจะเป็นทางที่ทำให้เราเข้าถึงและรู้จักตัวตน มากกว่าไปไขว่คว้าหรือให้คนอื่นๆ บอกว่าเราเป็นคนอย่างไร 

“มักค้นพบขณะที่หลงทาง เราจึงต้องยอมหลงเพื่อค้นพบให้เจอ”

ความสุขสงบอาจจะซ่อนอยู่ในตัวตนของเราถ้าหาเจอ แล้วคงทำให้ชีวิตของเราสดชื่นเหมือนกับชื่อหอยแสงอรุณ

แต่ถ้ายังไม่เจอตอนนี้ก็ไม่เป็นไร เพราะเรายังมีเวลาตามหาอีกตราบเท่าที่เรายังหายใจ หรือถ้าไม่เจอก็ไม่ถึงขั้นคอขาดบาดตาย บางทีการใช้ชีวิตท่ามกลางความวุ่นวายก็อาจเป็นความสงบสุขอย่างหนึ่งของใครบางคน