หาดเติมรัก คือ สถานที่ลับที่เขาว่ากันว่าเป็นหาดน้ำจืดแห่งเดียวในจังหวัดนนทบุรี
เราขับรถจากบางบัวทอง ระหว่างทางผ่านทั้งทุ่งนาเขียวขจีและหมู่บ้านจัดสรรเป็นระยะ ใช้เวลา 30 นาทีเราก็มาถึง แม้หน้าหาดจะรถติดและวนหาที่จอดรถอยู่พักหนึ่ง เพราะคนมาเที่ยวที่นี่เยอะจริงๆ
บรรยากาศในวันนี้ไม่ต่างจากการมาเจอที่นี่โดยบังเอิญเมื่อสองเดือนก่อน สิ่งที่เราเห็นผ่านกระจกรถยังเหมือนเดิม ยังเห็นผู้ปกครองจูงมือลูกหลานมาเที่ยวที่นี่ มีกลุ่มเพื่อนเดินตามกัน และมีแรงงานข้ามชาตินั่งท้ายรถกระบะนุ่งโสร่งมาเที่ยวกัน
การกลับมาที่หาดเติมรักอีกครั้งในรอบนี้ ไม่ใช่เพื่อใช้เวลาพักผ่อนหย่อนเท้าลงน้ำเย็นๆ แต่มาคุยกับเสี่ยหมึก – เอนก นาคนคร เจ้าของหาดมาถึงแนวคิดเบื้องหลังการสร้างหาดแห่งนี้ ที่เขาบอกว่าจุดเด่นของที่นี่ คือ ทุกคนมาได้ ไม่มีค่าเข้า ใกล้บ้าน และเล่นน้ำพักผ่อนได้เต็มที่
“จุดเด่นของหาดเติมรัก คือ เราไม่ได้เก็บค่าเข้า ค่าใช้จ่ายน้อย ปกติไปสวนน้ำต้องเสียค่าเข้า 150 – 300 บาท บางที่เป็นพัน แต่ที่นี่เราเก็บค่าจอดรถ 20 บาท มอเตอร์ไซค์ 10 บาท เช่าเสื่อผืนหนึ่งก็ 60 บาท เตียงผ้าใบ 120 บาทต่อตัว มากกว่า 6 คน เลือกนั่งซุ้มไม้ไผ่จ่าย 200 บาทก็นั่งได้ทั้งวัน ถ้าเลือกนั่งริมน้ำชั่วโมงละ 50 บาท สมมตินั่ง 6 ชั่วโมงก็ 300 บาท หารก็คนละ 50 บาท มันถูกกว่า แล้วก็ไม่ต้องเดินทางไกล”
โดยกลุ่มคนที่เลือกมาเที่ยวหาดแห่งนี้ ส่วนใหญ่เป็นคนไทย และมีแรงงานข้ามชาติเข้ามาใช้บริการด้วย
“คนไทยเยอะกว่า ส่วนแรงงานต่างชาติถ้าวันหยุดเขาก็มีมาบ้าง ไม่เกิน 20% แต่ถ้าเป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์จะมาเยอะ เพราะเขาจะหยุดเหมือนกันหมด”
ส่วนเหตุผลที่ทำให้นักท่องเที่ยวเข้าเลือกมาชายหาดจำลองแห่งนี้ แทนการออกไปสัมผัสเม็ดทรายและน้ำทะเลของจริง ในมุมเสี่ยหมึกคิดว่า ‘เวลา’ เป็นปัจจัยสำคัญที่สุด ถ้าอยากไปทะเลก็ต้องออกต่างจังหวัด ยิ่งเป็นคนที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ หรือบริเวณปริมณฑล ใช้เวลาเดินทางไม่ต่ำกว่า 2 ชั่วโมงเพื่อไปทะเลที่ใกล้ที่สุด เวลาถือเป็นสิ่งที่มีน้อยและต้องสงวนเก็บรักษาไว้พอๆ กับเงินเดือน สำหรับชีวิตคนทำงาน
“สำหรับบางคนเขาหยุดวันเดียว การนั่งรถไปบางแสนหรือชะอำมันจำกัดเวลา นั่งแป๊บเดียวก็ต้องกลับ เหมือนเดินทางมากกว่าเวลาพักผ่อน”
นอกจากจุดเด่นที่ไม่ต้องเดินทางไกลสำหรับคนพักแถวนี้ หาดเติมรักยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับครอบครัวที่หายากขึ้น ท่ามกลางห้างสรรพสินค้าและหมู่บ้านจัดสรรที่มากขึ้นเช่นกัน เพราะหาดแห่งนี้มีพื้นที่ให้เด็กๆ ที่รักการเล่นสไลเดอร์ และการเล่นน้ำท่ามกลางอากาศที่ร้อนจัด ส่วนพ่อแม่ก็มีพื้นที่สำหรับพูดคุยและพักผ่อนด้วยกัน
และด้วยความรักในกีฬาทางน้ำเหมือนกับเด็กๆ เครื่องเล่นสไลด์เดอร์ขนาดใหญ่ เสี่ยหมึกจึงเลือกทุกอย่างด้วยความตั้งใจ หวังว่าลูกค้าจะชอบและกลับมาใช้บริการอีกครั้ง
“เราเลือกเอง เพราะคิดว่าลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการน่าจะชอบ” เสี่ยหมึกบอกเราแบบนั้น
รวมถึงร้านค้าที่ตั้งเรียงรายตั้งแต่ทางเข้าหาดไปจนถึงขอบหาดรอบๆ ก็เป็นอาหารและเครื่องดื่มจากชาวบ้านแถวนั้นและแม่ค้าขาจรที่ขายทุกอย่างในราคาที่ถูกและบริการด้วยความเป็นกันเอง
เราได้คุยกับคุณป้าขายสตรอเบอร์รี่โยเกิร์ตตั้งใกล้ๆ กับหาด คุณป้าบอกว่า เธออยู่ตั้งแต่เริ่มเปิดหาดใหม่ๆ ทำให้เห็นว่าส่วนใหญ่เด็กๆ จะเรียกร้องให้ผู้ปกครองพามาที่นี่ เพราะมีกิจกรรมหลายอย่างให้พวกเขาทำ
“ขายมาตั้งแต่หาดเปิดเมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว ที่นี่ของไม่แพง คนตังค์น้อยก็มาได้ เขาก็จะได้มาพักผ่อน ออกกำลังกายกัน” คุณป้าบอก
ส่วนฝั่งครอบครัวที่เลือกมาพักผ่อนที่หาดเติมรัก เหตุผลหลัก คือ ไม่ต้องเดินทางไกล มาง่าย ไม่ต้องไปไกลถึงต่างจังหวัด
จากจุดเริ่มต้นที่อยากจะมีพื้นที่ไว้เล่นเจ็ตสกีให้ตัวเอง และเปิดร้านอาหารป่าควบคู่ไปด้วย เสี่ยหมึกบอกว่า กระแสตอบรับที่ดีเกินคาดจากการบอกแบบปากต่อปาก ทำให้เขามีแรงใจที่อยากจะพัฒนาหาดเติมรักนี้ให้ดียิ่งขึ้น
“ตอนแรกเราไม่คิดว่ามันจะมาถึงจุดนี้ที่คนเข้ามาหาดมากสุด 3,000 กว่าคนต่อวัน พอเริ่มทำแล้ว ก็เริ่มภูมิใจที่มันประสบความสำเร็จก็เลยทำขยายไปเรื่อยๆ”
ในฐานะเจ้าของหาดเติมรัก คำว่าพักผ่อนในนิยามของเสี่ยหมึกนั้นสั้นและเรียบง่าย มันคือ การผ่อนคลายในรูปแบบของตัวเอง
บางคนอาจเลือกนอนอยู่บ้านกับหนังสือและซีรีส์เรื่องโปรด แต่สำหรับบางคน การพักผ่อน คือ การได้ออกเดินทางไปสถานที่ใหม่ๆ ไม่ว่าจะใกล้หรือไกลบ้าน
แต่สำหรับหาดเติมรักแล้ว ที่นี่ คือ ศูนย์รวมของคนที่หลากหลายและบอกเราว่า ไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไหร่ ชนชาติไหน หรือทำงานอะไร ทุกคนก็ต้องการสถานที่พักผ่อนที่ใกล้บ้านและราคาถูกกันทั้งนั้น
