“เพราะความรักมันต้องใช้เงิน” ซีรีส์ – หนัง 3 เรื่อง บอกไว้แบบนั้น

“ความรักมันต้องใช้เงิน”

อยากเป็นแฟนที่ดี อยากมีความรักที่ดี อยากให้ความสัมพันธ์ราบรื่น เงินคือปัจจัยสำคัญในการกำหนดชีวิตความสัมพันธ์ของคนสองคน 

ไม่ว่าจะนางซินที่บังเอิญพบรักเจ้าชายรูปงามจนทำให้ชีวิตเธอเปลี่ยนไปตลอดกาล ความรักกำมะลอเพื่อกอบกู้วิกฤตที่บ้าน หรือความแตกต่างทางชนชั้นที่ถูกนำมาร้อยเป็นเรื่องราวในซีรีส์ ละคร หนังหลายเรื่องบอกเราว่า ‘แค่รักอย่างเดียวไม่พอ แต่มันต้องใช้เงิน’

Mutual ชวนดูซีรีส์และภาพยนตร์  3 เรื่อง ที่ความสัมพันธ์ของเหล่าตัวละครมีเงินเป็นปัจจัยสำคัญทำให้พระเอกนางเอกมาเจอกัน ร่วมทุกข์ร่วมสุข ให้ความรักของพวกเขาเดินหน้าต่อได้ 

บางเรื่องก็สมหวัง แต่บางเรื่องเพราะเงินก็ทำให้คนสองคนต้องแยกย้ายไปมีชีวิตของตัวเอง

เพราะรักอย่างเดียวมันไม่พอจริงๆ 

Business Proposal : ไม่ว่าความรักแบบไหน เงินก็สำคัญ เพราะทำให้คนสองคนมาเจอกัน

“ผมไม่ได้หมายถึงแฟนจริงๆ แต่หมายถึงให้แกล้งเป็นแฟนกัน”

เพราะไม่อยากให้ปู่เข้ามายุ่งเรื่องความรักไปมากกว่านี้ คังแทมู ประธานบริษัทด้านอาหารของเกาหลีเลยจ้าง ‘ชินฮารี’ ที่เขารู้จักเธอในชื่อ ‘ชินคึมฮี’ มาเป็นแฟนหลอกๆ สบตาปู่ 

“คุณชิมคึมฮีเหมาะกับงานที่สุด  คุณได้แปดแสนใช่ไหม ผมจะเพิ่มให้สองเท่า และได้ทุกครั้งที่ไปเจอคุณปู่กับผม” คังแทมูยื่นข้อเสนอให้ชินฮารีตอบตกลง

ข้อเสนอของคังแทมูทำให้ชินฮารีคิดหนัก เพราะเงินคือตัวแปรสำคัญที่จะทำให้พ่อแม่มีความสุขกับการทำธุรกิจไก่ทอดโดยไม่ต้องหวังกำไรมากนัก น้องชายจะได้ทำในสิ่งที่อยากทำ และเธอก็ได้ใช้ชีวิตตามที่ต้องการ 

“พอมองย้อนกลับไป ชีวิตสั้นๆ ทีผ่านมาของฉันหมดไปกับการมีหนี้สิ้นแทนที่จะได้เฉิดฉาย” ชินฮารีนึกในใจ

ชีวิตที่ผ่านมาของชินฮารีหมดไปกับการทำงานหาเงินเลี้ยงดูครอบครัว ตั้งใจเรียน ตั้งใจเตรียมสมัครงาน เพื่อปลดหนี้บ้าน สินเชื่อเงินสด เงินกู้เรียน เงินบัญชีติดลบ นี่คือภาระทั้งหมดที่ฮารีแบกไว้

นั่นทำให้ฮารีตอบตกลงและเซนต์สัญญาการเป็นแฟนปลอมๆ กับคังแทมู และในบางครั้ง คังแทมูก็กลายเป็นแฟนปลอมๆ ของฮารีเหมือนกัน

วันหนึ่งที่ฮารีถูกคังแทมูทิ้งไว้กลางทาง ทำให้เธอตัวเปียกฝนแล้วบังเอิญเจอกลุ่มเพื่อนสมัยเรียนที่โรงแรม ระหว่างที่ยืนคุย คังแทมูก็เดินเข้ามาอย่างไม่ทันตั้งตัวเปลี่ยนลุคผู้ชายนิ่งขรึมเป็นแฟนหนุ่มอวดรวยต่อหน้าเพื่อนๆ แล้วยังเป็นเจ้ามือเลี้ยงอาหารเย็นให้เพื่อนของฮารี

ขณะเลือกเมนู ฮารีเห็นราคาในเมนูก็ตกใจเพราะแต่ละเมนูเป็นราคาที่เธอไม่สามารถจ่ายไหวจนเลือกไม่ถูกว่าควรสั่งเมนูไหนดี แม้แทมูจะออกปากว่าเป็นคนจ่ายมื้อนี้เอง

แทมูเลยพูดขึ้นมาว่า  “ความรักที่เค้ามีให้ตัวเองกับบัตรเครดิตเหมือนกันยังไงรู้ไหม”

“มันไม่มีจำกัดยังไงล่ะ.. รักเกินร้อยไม่ลิมิต”

ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะความรักแบบไหน เงินก็ยังสำคัญ เพราะหลายครั้งก็เพราะเงินนี่แหละที่ทำให้คนสองคนมาเจอกัน

ใครบอกว่าเงินไม่สำคัญ แต่เงินนี่แหละโคตรสำคัญ 

ถ้าชินฮารีไม่ตอบตกลงเพราะเงิน วันนี้เธอก็คงไม่มีแฟนเป็นประธานบริษัทหน้าหล่อเหมือนกัน

When Fortune Smiles : “ไม่มีอะไรจริงหรือหลอก ถ้าเราได้เงิน เราก็จะได้ใช้ชีวิตจริงๆ ด้วยกัน ถูกไหม?”

“ถ้าฉันเป็นแค่คนเก็บขยะ เธอจะยังรักอยู่ไหม”

คุณหนูบอกกับคนรักด้วยความโลเล เพราะคงไม่มีใครรับได้ หากแท้จริงแล้วเธอคือคนเก็บขยะปลอมตัวมา

และที่ยากกว่าบอกความจริง คือการยอมรับว่าถ้าเขารู้ เขาจะยังรักเราอยู่ไหม…

When Fortunate Smiles หนังที่โจวชิงฉือ (Stephen Chou) แสดงนำ ถ่ายทอดชีวิตของคนชนชั้นล่างที่ตลกโปกฮา แต่แฝงไปด้วยความกลัวที่พวกเขาต้องเผชิญ หนึ่งในนั้น  คือ การกลัวไม่ถูกเห็นค่าจากคนรัก

เรื่องราวเริ่มต้นจากการตายของเศรษฐีเพชรพลอยแห่งเกาะฮ่องกงยกสมบัติทั้งหมดให้ ‘คุณหนูเฟยเฟย’ ลูกสาวแต่เพียงผู้เดียว ลูกชายและลูกของน้องชายจึงพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อจะแย่งมรดกจากเฟยเฟย

ก่อนที่เฟยเฟยจะกลับมารับมรดก ‘เว่ย’ ลูกชาย ได้จ้าง ‘ฟ่ง’ คนเก็บขยะที่หน้าเหมือนคุณหนูเฟยเฟยทุกประการมาปลอมตัวเพื่อเอาสมบัติจากพินัยกรรม ส่วน ‘ล่ง’ ลูกของน้องชายก็จ้างนักต้มตุ๋นในนาม ‘วินเซนต์ ฮาน’ มาจีบเพื่อแต่งงานแย่งสมบัติ

คนทั้งสองจึงได้รู้จักและใช้เวลาร่วมกัน โดยไม่รู้ภูมิหลังของอีกฝ่าย ก่อนงานแต่งงานหลอกที่สร้างขึ้นมาเพื่อจัดแจงสมบัติ เขาทั้งสองต่างตกหลุมรักกันจริงๆ 

ขณะที่ทั้งสองนั่งร้องคาราโอเกะริมน้ำด้วยกัน ฟ่งแกล้งถามฮานว่า “ถ้าฉันเป็นคนเก็บขยะ เธอจะยังรักฉันอยู่ไหม” ฮานตอบกลับว่า “รักสิ” “แล้วถ้าฉันเป็นนักต้มตุ๋น เธอจะยังรักอยู่ไหม” ฮานถามกลับ

สุดท้ายความลับก็ไม่สามารถเก็บต่อไปได้ ฟ่งสารภาพทั้งน้ำตากับฮานว่า “ความจริงแล้วฉันเป็นคนเก็บขยะ ฉันเกิดและเติบโตมากับกองขยะ”

แม้จะตกใจ ฮานก็กุมมือเธอทั้งสองข้างเอาไว้ “ไม่มีอะไรจริงหรือหลอก ถ้าเราได้เงิน เราก็จะได้ใช้ชีวิตจริงๆ ด้วยกัน ถูกไหม?”

ไม่มีใครอยากให้คนที่เรารักเห็นด้านเสียของเรา และสิ่งที่ยากที่สุด คือ ชีวิตคู่หลังจากนี้จะเป็นอย่างไร หากเราไม่ได้มั่งมีเหมือนเดิม

แม้ท้ายที่สุดแล้วทั้งสองต้องทิ้งชีวิตคนรวย กลับไปใช้ชีวิตเช่นเดิม และคงจะไม่ได้กลับมารักกันอีก ฮาน ก็กลับมาหาฟ่งที่กองขยะ และชวนไปกินข้าวเย็นอีกครั้ง

“ต้องพาไปที่เดอะรีเจนท์หรือ แชงการีล่าสิ ไม่งั้นจะเหมาะกับคุณหรอ”

Pride and Prejudice : ‘เงิน’ กามเทพที่ทำให้ความรักพวกเขามีโอกาสเติบโต

“เป็นความจริงที่ยอมรับกันทั่วสากลโลกว่า ชายโสดผู้เป็นเจ้าของสินสมบัติอันมั่งคั่งย่อมอยู่ในฐานะที่ต้องการของภรรยา”

ประโยคเปิดและเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมดจากเรื่อง Pride and Prejudice 

เจน ออสเตน (Jane Austen) นักเขียนชื่อดังในยุคปลายศตวรรษที่ 18 เขียนเรื่องนี้ขึ้นเมื่อปี 1813 แม้จะผ่านมาหลายร้อยปีแต่ประโยคข้างต้นก็ยังคงเป็นอมตะ

นิยายเรื่องนี้ก็เป็นต้นแบบให้กับภาพยนตร์ – ซีรีส์หลายเรื่อง เช่น Bridgerton หรือปริศนา การตามหาสามีของเหล่าสาวๆ หรือความรักต่างชนชั้น

อิลิซาเบธ ตัวละครเอกของเรื่องและพี่น้องอีก 4 คนกำลังถูกแม่ตามหาสามีให้ เพราะฐานะที่ไม่ได้ร่ำรวยและกฎหมายยุคนั้นที่ผู้หญิงไม่สามารถครอบครองทรัพย์สินใดๆ ได้ การมีสามีจะเป็นเครื่องการันตีว่าชีวิตที่เหลือของพวกเธอจะปลอดภัย มีคนดูแลต่อจากพ่อแม่

แต่อิลิซาเบธไม่คิดแบบนั้น  เธอไม่สนใจการตามหาสามี ยินดีที่จะครองตัวเป็นโสด หรือถ้าต้องแต่งงานกับใครสักคนต้องเป็นคนที่เธอรัก จนกระทั่งการมาของคนกลุ่มหนึ่งที่มาพักผ่อน ณ เมืองที่อิลิซาเบธอาศัย พวกเขาร่ำรวยด้วยทรัพย์สินและที่สำคัญยังโสด ทำให้แม่ของอิลิซาเบธเตรียมจับคู่ให้กับลูกสาวเธอ

‘มิสเตอร์ดาร์ซี’ ตัวละครเอกอีกหนึ่งคน เขาตรงตามสูตรของการเป็นพระเอกในฝัน คือ หล่อ ร่ำรวย และฉลาด แต่คุณสมบัติเหล่านี้กลับทำให้อิลิซาเบธไม่ชอบหน้าเขา โดยเฉพาะอาการหยิ่งผยองคนที่สถานะต่ำกว่าตัวเอง

ถึงแม้ครอบครัวอิลิซาเบธจะไม่ร่ำรวย แต่พวกเธอยังมีสาวใช้ที่ช่วยจัดการสิ่งต่างๆ บรรเทาภาระในชีวิตประจำวัน ทำให้พวกเธอสามารถไปร่วมงานเลี้ยงสังคม และมีญาติที่เกี่ยวพันกับตระกูลใหญ่ๆ ก็ทำให้เธอได้พบมิสเตอร์ดาร์ซีบ่อยครั้ง จากอาการไม่ชอบหน้าครั้งแรกกลับกลายเป็นความรักในท้ายที่สุด

อคติที่อิลิซาเบธมีต่อมิสเตอร์ดาร์ซีถูกลบออก เมื่อเขาเป็นคนที่คอยช่วยเหลือเธอเสมอเมื่อเกิดปัญหา และมิสเตอร์ดาร์ซีคงช่วยอิลิซาเบธไม่ได้  หากเขาไม่มีเงินหรือเส้นสายที่จะทำให้ปัญหาของอิลิซาเบธหายไป

ความรักที่อิลิซาเบธมีให้มิสเตอร์ดาร์ซีจะไม่มีเรื่องเงินเกี่ยวข้อง แต่ ‘เงิน’ ก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ความรักระหว่างพวกเขามีโอกาสเติบโต

หากไม่มีเงินและการได้อยู่ในแววงสังคมเดียวกัน พวกเขาคงเป็นคนแปลกหน้าที่เจอคืนหนึ่งก่อนจะจากกันด้วยความไม่ชอบขี้หน้า หวังว่าจะไม่เจอกันอีก

หรือนี่อาจเป็นพรหมลิขิตที่บันดาลให้พวกเขาพบกัน พรหมลิขิตที่มีเงินเป็นกามเทพตัวน้อยๆ