บทความนี้เปิดเผยเนื้อหาบางส่วนของซีรีย์
coming of age
ยังคงเป็นวิธีเล่าเรื่องยอดนิยมของซีรีส์ ภาพยนตร์ ที่ตัวละครเอกเป็น LGBTQ+
เพราะการค้นพบว่าพวกเขามีเพศสภาพ (Gender) หรือเพศวิถี (Sexuality) แบบไหน ยังคงเป็นการเดินทางที่คนให้ความสนใจ เพื่อหาคนที่เผชิญประสบการณ์เดียวกัน หรือยังอยู่ในช่วงค้นหาเหมือนกัน
‘เต๋’ จากซีรีส์แปลรักฉันด้วยใจเธอ (I Told sunset about you) ก็กำลังเผชิญกับสถานการณ์แบบนั้น แม้เป้าหมายสูงสุดของชีวิตเต๋ในช่วงม.6 คือการสอบเข้าคณะในฝัน และเขาก็พร้อมทำทุกอย่างเพื่อให้ไปถึง แต่ ‘ความรัก’ ก็เป็นสิ่งที่วิ่งวนเวียนใกล้ๆ เต๋ แต่มันกลับไม่ชัดเจนเหมือนความฝันที่อยากเป็น ‘นักแสดง’ โดยเฉพาะความรู้สึกที่มีต่อเพื่อนวัยเด็กอย่าง ‘โอ้เอ๋ว’

และเพราะโอ้เอ๋วเป็นเพศเดียวกับเขา ยิ่งทำให้เต๋สับสน หรืออาจเรียกว่า ‘กังวล’ ว่าสังคมและคนอื่นๆ จะมองเขายังไง ถ้าชีวิตเขาไม่ได้เป็นไปตาม ‘กล่อง’ ที่สังคมกำหนดไว้ โดยเฉพาะความรู้สึกของ ‘ม้า’ และ ‘โก๊หุ้น’ แม่และพี่ชาย ครอบครัวที่เต๋มี
“ถ้าเต๋คบกับผู้ชายม๊าจะโอเคเหรอ? ม๊าจะคิดว่ายังไง”
“ม๊าไม่โอเคหรอกโก๊”
คืนหนึ่งที่เต๋ระบายความในใจให้โก๊หุ้นฟัง พี่ชายที่เขาคอยเทียบกับตัวเองเสมอ และแอบเอาชนะเล็กๆ แต่เป็นคนแรกที่เขากล้าบอกความในใจให้ฟัง และโก๊หุ้นก็รับฟังเรื่องนี้อย่างปกติ เหมือนน้องมาบอกว่าชอบใคร
“ชีวิตมึง แค่ทำสิ่งที่มึงมีความสุขก็พอแล้ว” ต่อให้คนอื่นจะว่าอะไร สำหรับพี่ ความสุขของน้องมาก่อนเสมอ เขาถึงทำงานหนัก ส่วนหนึ่งเพื่อเลี้ยงดูแม่และทำให้มั่นใจว่าน้องจะได้เดินตามความฝัน

ส่วนม้าของเต๋ ในซีรีส์ไม่ได้เล่าเรื่องของเธอลึกๆ มีเพียงภาพของผู้หญิงคนหนึ่งที่สามีเสียชีวิต เธอก็ต้องเป็นคนดูแลพวกเขาต่อจากนั้น พร้อมกับเปิดร้านขายหมี่ฮกเกี้ยน
“จี้สุ่ยปั้นลูกเก่งจริงๆ” เสียงจากคนรอบข้างที่มองมายังครอบครัวของเต๋ เป็นหนึ่งเครื่องการันตีสำหรับผู้หญิงคนหนึ่งในฐานะแม่ ที่ทำให้ม้าหรือจี้สุ่ยมีความสุขเสมอ
รอยยิ้มและความใจดีที่มีต่อลูกทั้ง 2 คน อาจทำให้คนดูสงสัยว่าทำไมเต๋ถึงกลัวม้าจะรู้และรับไม่ได้ในสิ่งที่เขาเป็น เพราะสิ่งที่เต๋สัมผัสจากม้าในฐานะลูก คือ ความภาคภูมิใจที่ม้ามีต่อลูกเป็นสิ่งที่ทำให้เธอมีความสุข และพร้อมบอกใครๆ ว่าลูกของเธอดีอย่างไร
รสนิยมและความรักของเต๋อาจทำให้เขาไม่ได้เป็น ‘ลูกชาย’ ที่ม้าภูมิใจอีกต่อไป

“ไหนบอกจะให้ม้าภูมิใจไง ทำไมไม่เอาอย่างโก๊หุ้นเขา” ประโยคที่ม๊าเคยพูดกับเต๋ อาจจะเพราะความโกรธ ไม่พอใจ หรือเสียใจ แต่ที่แน่ๆ คนฟังแบบเต๋เก็บไว้ และยิ่งเพิ่มความกลัวที่เขามี
“จะไปเปลี่ยนความคิดของทั้งโลกได้ยังไง วันนี้มึงเดินจับมือกับผู้ชายก็จะมีทั้งคนที่โอเคและไม่โอเค แต่กูโอเค ถ้าน้องกูจะชอบผู้ชาย กูโอเค
“ส่วนม้า ถ้าวันนี้มึงพร้อมแค่เดินไปบอกเขา ถ้าเขาเข้าใจมึงก็โคตรโชคดี แต่ถ้าเกิดม้าไม่เข้าใจ ก็ไม่ต้องตกใจ ให้เวลาเขานิดหนึ่ง”
คำปลอบใจจากโก๊หุ้น และอาจจะเป็นความโชคดีของเต๋จริงๆ ที่ม้ารู้เรื่องของเขา แต่ปฎิกิริยาตอบกลับไม่ได้เป็นแบบที่เต๋เคยคิดไว้
“เต๋กับโอ้เอ๋วดูแลกันให้ดีๆ นะลูก” พร้อมกับมอบเครื่องรางป้องกันอันตราย วิธีแสดงออกของม้าที่ไม่ต้องพูดหรือสรรหาคำใดๆ แต่เป็นความหวังดีและอยากให้คนที่ลูกรักปลอดภัยเช่นเดียวกับลูกของเธอ
และไม่ต้องมีใครบอก หรือเต๋เองก็ไม่จำเป็นต้องพูด แต่ม้าสามารถรับรู้ได้ด้วยสถานะคนเป็นแม่ และเธอก็พร้อมรับทุกสิ่งที่ลูกเป็น
“เต๋ ใช้ชีวิตให้ตัวเองมีความสุขเถอะนะลูก”
ความรู้สึกจากม้าที่มีให้กับลูกคนนี้ เพราะความสุขยังคงเป็นสิ่งที่เราอยากมีและมอบให้กับคนที่เรารักเสมอ