#SephoraKids เมื่อบิวตี้สแตนดาร์ดทำให้เด็กผู้หญิง 10 ขวบกังวลริ้วรอย แห่ซื้อครีมชะลอวัย

“พวกคุณสังเกตกันไหม เดี๋ยวนี้มีเด็ก 10 ขวบเต็มร้าน Sephora เลย” 

ผู้ใช้ติ๊กต็อกชื่อโคอี้ เกรซ (Chole Grace) ตั้งข้อสังเกต คงจะไม่แปลกอะไรถ้าเด็กอยากจะเดินดูเครื่องสำอางบ้าง แต่ก็มีเสียงของพนักงานร้านเซโฟร่า (Sephora) ร้านขายเครื่องสำอางค์และสกินแคร์สัญชาติฝรั่งเศส ที่เล่าว่า สิ่งที่เด็กส่วนใหญ่เข้ามาซื้อ คือ เรตินอล เป็นผลิตภัณฑ์ช่วยชะลอวัยและกระชับรอยเหี่ยวย่น ทำให้หลายคนตั้งคำถามเป็นอย่างมากว่า เด็กวัยเท่านี้จะเอาเรตินอลไปทำอะไร? หรือพวกเขาในวัยนี้หันมาสนใจริ้วรอยเร็วไปไหม?

‘Sephora Kids’ เลยกลายเป็นคำที่ใช้เรียกเด็กสาวอายุราว 10 ปี ที่มาเดินซื้อของใน Sephora พวกเธอมักจะเลือกซื้อสกินแคร์ราคาแพง เครื่องสำอางแบรนด์หรู บางคนก็พ่วงมาด้วยพฤติกรรมหยาบคายกับพนักงานร้าน ปรากฎการณ์นี้เลยเป็นที่ถกเถียงในโลกออนไลน์อย่างมาก แฮชแท็ก #SephoraKids ถูกเข้าชมประมาณ 33.9 ล้านครั้งในติ๊กต็อก มีคนจำนวนมากเข้ามาแสดงความเห็นถึงพฤติกรรมของเด็กๆ

“มีหนูน้อยคนหนึ่งเข้ามาในร้านเพื่อตามเรตินอลแบรนด์ ดรั้งค์ เอเลเฟน (Drunk Elephant) ซึ่งเป็นครีมที่ค่อนข้างแรงต่อผิว แต่ไม่ว่าฉันจะพูดอธิบายไปแค่ไหน เธอก็ยังยืนยันว่าจะเอาให้ได้ แถมพฤติกรรมของเธอยังหยาบคาย” อดีตพนักงานร้านเซโฟร่า เล่าให้ฟังผ่านช่องติ๊กต็อกของเธอที่ใช้ชื่อว่า โอลิเวีย วาฟิเดส (Olivia Vaphides) จากปรากฎการณ์นี้ก็ทำให้ผู้ใหญ่บางส่วนมองว่า เด็กกลุ่มนี้ก้าวร้าวและเอาแต่ใจ แถมยังใช้เงินสิ้นเปลือง

“เรื่องเด็กระบาดในร้านมันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ แล้ว ฉันว่าเซโฟร่าควรมีการตรวจบัตรก่อนเข้าร้าน เด็กพวกนี้โคตรน่ากลัวเลย”

หนึ่งในอีกหลายร้อยความเห็นที่มีต่อปรากฎการณ์เด็ก 10 ขวบในเซโฟร่า ส่วนใหญ่เห็นไปทางเดียวกันว่า เด็กพวกนี้น่ารำคาญ ทำให้ผู้ใหญ่อย่างพวกเขาไม่อยากไปเดินเซโฟร่าแล้ว ในขณะเดียวกันคำถามที่หลายคนมี คือ พ่อแม่ของเด็กๆ ไปไหน ทำไมถึงปล่อยให้ลูกของตัวเองใช้ของที่เป็นอันตรายแบบนี้

เรื่องที่น่าพูดคุยอีกอย่าง คือ สาเหตุที่ทำให้เกิดปรากฎการณ์นี้ ระหว่างเด็กที่อยากทำให้ตัวเองตรงตามบรรทัดฐานความสวย หรือการเลี้ยงดูของพ่อแม่ที่ตามใจลูกเกินขอบเขต?

สังคมหรือพ่อแม่ที่รังแกฉัน

“เด็กผู้หญิงก็แบบนี้แหละ”

ทัศนคติที่มองว่าความสวยงามเป็นของคู่เพศหญิง อาจจะไม่ใช่ความคิดที่จริงเสมอไป เพราะหากถอยไปดูเบื้องหลังของการอยากมีครีมบำรุงและเครื่องสำอางราคาแพงของเด็กๆ คือ บรรทัดฐานความสวย (Beauty Standard) ที่กำลังกัดกินความเป็นเด็กของพวกเขาอยู่ ผู้ปกครองกลายเป็นด่านแรกๆ ที่จะช่วยกรองว่า สิ่งไหนเหมาะ-ไม่เหมาะกับเด็กๆ  นั่นหมายความว่าตลอดเส้นทางการเติบโตของพวกเขา การดูแลและเอาใจใส่จากผู้ปกครองเป็นสิ่งที่สำคัญที่ไม่อาจจะมองข้ามไปได้

ปฏิเสธไม่ได้ว่าเด็กเจนอัลฟ่า เติบโตมากับความเชื่อที่บอกว่า ผิวสวย หน้าใส ผมเงางาม เป็นหนึ่งในบรรทัดฐานความสวยทำให้เด็กหลายคนอยากจะเป็น สื่อโซเชียลก็มีอิทธิพลต่อการเติบโตของพวกเขามากกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นติ๊กต็อก (TikTok) หรืออินสตาแกรม (Instagram) คอนเทนท์อย่าง GRWM (Get Ready With Me ที่แปลว่า เตรียมพร้อมไปกับฉัน) ที่โชว์การเตรียมผิวในแต่ละวันของอินฟลูเอนเซอร์ ทำให้เด็กหลายคนเริ่มสงสัยในตัวเองว่า ที่เราผิวไม่เนียน มีรูปร่างอวบ หรือฟันไม่ขาว เพราะไม่ได้ทำตามอินฟลูเอนเซอร์เหล่านี้หรือเปล่า เมื่อมีสื่อที่ใกล้มือมากขึ้น สิ่งที่พวกเห็นและรับรู้ก็จะกว้างมากขึ้น จนวันหนึ่งมันยากเกินที่เด็กจะรับมือ

“ความต่างระหว่างวัยเด็กของฉันที่เป็นรุ่นเจนวายกับลูกของฉันที่เป็นเจนอัลฟ่าคือ วัยเด็กของฉันมีดาราหนังเป็นต้นแบบ ทำให้ฉันกับคนพวกนั้นมีความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด แต่เจนอัลฟ่าโตมากับอินฟูลเอนเซอร์ตามสื่อออนไลน์ ซึ่งคนพวกนั้นเป็นใครก็ได้ เด็กๆ เลยคิดว่า ถ้าคนพวกนั้นทำได้ พวกเธอก็ทำได้เช่นกัน” ‘ฮาน’ เจ้าของแบรนด์บีทวีน (Be-Tween) เครื่องสำอางสำหรับเด็กและคุณแม่ลูกสองกล่าว

ความเห็นส่วนหนึ่งจากผู้ใช้อินเตอร์เน็ตเสนอว่า ผู้ปกครองควรดูแลการเสพสื่อของเด็กอยู่สม่ำเสมอ เพราะเราไม่มีทางรู้ได้เลยว่า ในแต่ละวันพวกเขารับข่าวสารแบบไหนไปบ้าง

“ฉันรู้สึกหนักใจทุกครั้งเวลาเล่นอินสตาแกรม” เด็กสาววัย 19 ปี คนหนึ่งบอกว่า มีครั้งหนึ่งเธอเคยค้นหาคำว่า ‘ลดน้ำหนัก’ ในแพลตฟอร์มนี้ หลังจากนั้นหน้าไทม์ไลน์ของเธอก็มีแต่เรื่องลดน้ำหนัก และโชว์รูปของผู้หญิงสวย หุ่นดี เต็มไปหมด เมื่อเห็นบ่อยขึ้น เธอก็เริ่มรู้สึกไม่มั่นใจในตัวเอง และเกิดการเปรียบเทียบว่าทำไมคนอื่นผอม แต่เธอไม่ 

ปี 2022 โรงพยาบาลเด็กซี.เอส.มอต (C.S. Mott) มหาวิทยาลัยมิชิแกนในสหรัฐอเมริกา ได้สำรวจมุมมองของเด็กที่มีต่อภาพลักษณ์ของตัวเอง ผ่านการสัมภาษณ์ผู้ปกครองของเด็กอายุ 8 – 18 ปี ผลสำรวจออกมาว่า 3 สิ่งที่เด็กส่วนใหญ่มองเห็นเป็นด้านลบของตัวเอง คือ สิวหรือผิว 32% น้ำหนัก 31% และ ผม 27% ผู้ปกครองบอกอีกว่า ที่ลูกของพวกเขามองตัวเองแบบนี้ เพราะโดนล้อหรือปฏิบัติไม่ดีจากเพื่อนร่วมชั้นของพวกเขาเอง รวมไปถึงคนแปลกหน้า และคนในครอบครัว 

ไม่ทำกิจกรรม ไม่กล้าแสดงออก ไม่ถ่ายรูป คือ พฤติกรรมที่ผู้ปกครองสังเกตุได้เมื่อลูกของพวกเขาไม่มั่นใจในตัวเอง 

ซูซาน วูลฟอร์ด (Susan Woolford) หมอประจำโรงพยาบาลที่มีส่วนร่วมกับผลสำรวจข้างต้น  แสดงความกังวลถึงการที่เด็กมีทัศคติลบต่อรูปร่างตัวเอง เพราะนอกจากมันจะส่งผลถึงสุขภาพกาย เช่น เด็กบางคนยอมอดข้าวเพื่อให้ตัวเองผอม เป็นต้น มันยังส่งผลต่อสุขภาพจิตอีกด้วย ที่อาจหมายถึงโรคซึมเศร้าและโรควิตกกังวล

“การที่เด็กอายุน้อยเหล่านี้มองว่าตัวเองไม่สวยหรือไม่หล่อ ทำให้พวกเขาขาดความมั่นใจ และที่สำคัญส่งผลเสียต่อสุขภาพจิตอีกด้วย”

ไม่ใช่แค่เด็ก 10 ขวบ แต่หนุ่มสาววัย 20 ปีเองก็เริ่มจองคิวฉีดโบท็อกซ์กันแล้ว ซีเอ็นเอ็น เฮลล์ (CNN Health) รายงานว่า เด็กสาวอายุ 19 และต่ำกว่านั้น เริ่มเข้าคลินิกฉีดโบท็อซ์กันมากยิ่งขึ้น จำนวนเพิ่มขึ้นมากถึง 75% ตั้งแต่ปี 2019 ถึง 2022 ในขณะเดียวกัน ก็มีเสียงของแพทย์ผิวหนังออกมาบอกว่า วัยรุ่นเหล่านี้เริ่มฉีดโบท็อกซ์ทั้งๆ ที่หน้าไม่มีริ้วรอย หรือรอยเหี่ยวย่น พวกเขาเข้ามาเพราะความกลัวที่จะแก่

ทุกคนล้วนเคยเป็นเด็ก

ย้อมผม ทาขอบตาสีดำ ดัดฟันแฟชั่น เทรนด์การแต่งตัวสมัยก่อนที่ผู้ใหญ่หลายคนเคยทำเมื่อตอนเป็นเด็ก แล้วก็ถูกผู้ใหญ่รุ่นก่อนมองว่า ‘แก่แดด’ คำที่ไม่เคยหายไปไหน เพราะมันยังคงถูกส่งมาจากรุ่นสู่รุ่น 

“ก่อนที่ใครจะเริ่มวิจารณ์เด็ก อยากให้ลองฉุกคิดซักนิดก่อนว่า ตอนเราเป็นเด็ก เราก็เคยหลงทาง ไม่มั่นใจในตัวเองแบบนี้เหมือนกัน เด็กๆ เองก็ต้องการค้นหาตัวเอง และเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเองไม่ต่างจากที่ผู้ใหญ่ทำ”

หนึ่งความเห็นจากเจ้าของแบรนด์สกินแคร์แห่งหนึ่ง เราทุกคนล้วนเคยเป็นเด็ก ผ่านช่วงวัยที่สับสนและเจอการเปลี่ยนแปลง ข้อมูลจากเวรี่เวลแฟมิลี่ (VeryWell Family) บอกว่าวัย 10 ขวบเป็นช่วงวัยที่กำลังเริ่มต้นเข้าสู่วัยรุ่น พวกเขาจะค่อยๆ เจอกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ทั้งร่างกาย อารมณ์ ฮอร์โมน เพื่อน จะต่างไปจากเดิมจนเราอาจไม่ทันได้สังเกต อีกหนึ่งความท้าทายที่พวกเขาต้องเจอ คือ การรับรู้ว่าภาพลักษณ์ของตัวเองเป็นยังไง เมื่อเริ่มเข้าสังคมมากขึ้น

อ้วน ผอม สูง ขาว คำที่เด็กวัยนี้เริ่มสนใจกว่าเมื่อก่อน พวกเขาเริ่มระวังตัวเองว่า จะไม่ถูกล้อหรือกลั่นแกล้งจากเพื่อนที่โรงเรียน หรือบางทีก็จากผู้ใหญ่ รูปลักษณ์จึงเป็นสิ่งที่เด็กเริ่มคำนึงถึง

แต่คำเหล่านี้คงไม่ได้เกิดขึ้นในหัวเด็กๆ เอง พวกเขาได้รับผ่านสภาพแวดล้อมที่เติบโตมา ไม่ว่าจะจากผู้ใหญ่ สื่อ หรือแม้กระทั่งในเพลง บรรทัดฐานความสวยแทรกซึมอยู่ในทุกๆ ที่ จนทั้งเรา เด็ก และผู้ปกครองเองก็ไม่ทันได้รู้ตัว  

ถ้าเด็กในวันนี้คือผู้ใหญ่ในวันหน้า ผู้ใหญ่ในวันนี้อาจลองหันกลับมาดูว่า ที่ผ่านมาเราเตรียมให้เด็กเหล่านี้ โตเป็นผู้ใหญ่อย่างไร สังคมที่จะปลูกฝังให้เด็กๆ คิดเรื่องภาพลักษณ์อย่างไร หมกมุ่นที่จะทำตัวให้ตรงกับบิวตี้สแตนดาร์ดที่มี หรือมั่นใจไม่ว่าพวกเขาจะเป็นอย่างไรก็ตาม

อ้างอิง: